top of page

จำพรรษาที่ ๑ วัดปู่เจ้า พ.ศ. ๒๔๙๔

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                   เมื่ออุปสมบทเรียบร้อยแล้วรุ่งขึ้นก็ฉลองพระใหม่พร้อมกันที่วัดหนองหลวงเมื่อเสร็จพิธีการแล้วบิดามารดาจึงเดินทางไปศรีประจันต์เพื่อส่งพระอุปัชฌาย์และพระลูกชาย เพื่อไปจำพรรษาที่วัดปู่เจ้าเมื่อถึงวัดปู่เจ้าในเวลาเย็นบิดาและมารดาจึงพาเข้าไปฝากไว้กับสมภารเพื่ออบรมสั่งสอนซึ่งท่านสมภารก็คุ้นเคยและรู้อัธยาศัยของท่านมาตั้งแต่เป็นสามเณรจึงรับธุระเป็นอย่างดี เมื่อถึงวันเข้าพรรษา หลวงพ่อและมพระใหม่ทุกรูปจึงกล่าวคำขอนิสัยต่อเจ้าอาวาสวัดปู่เจ้าตามธรรมเนียมของพระธรรมวินัยว่าด้วยภิกษุผู้ไม่ได้อยู่ในปกครองของอุปัชฌายะ ต้องถือภิกษุอื่นเป็นอาจารย์ และอาศัยท่านแทนอุปัชฌายะวิธีถืออาจารย์ก็เหมือนกับวิธีถืออุปัชฌายะ ต่างกันแต่คำขอว่า "อาจาริโย เม ภันฺเตโหหิ, อายัสฺมโต นิสฺสายะ วัจฺฉามิ"  ภิกษุผู้มีพรรษาหย่อน๕  เป็นนวกะอยู่ แม้เป็นผู้รู้ทรงธรรม  ทรงวินัย จะไม่ถือนิสัยอยู่ในปกครองของอุปัชฌายะหรือของอาจารย์ไม่ถูกต้อง พระพุทธองค์ทรงห้ามไว้ ภิกษุเดินทางภิกษุไข้ภิกษุผู้เข้าป่าเพื่อเจริญสมณะธรรมชั่วคราวในที่ใดหาท่านผู้ให้นิสัยไม่ได้และมีเหตุขัดข้องที่จะไปอยู่ในที่อื่นไม่ได้ จะอยู่ในที่นั้นด้วยผูกใจไว้ว่า เมื่อใดมีท่านผู้ให้นิสัยได้มาอยู่ จักถือนิสัยในท่านนั้นก็ใช้ได้  ภิกษุผู้มีพรรษาได้๕แล้ว แต่ยังหย่อน ๑๐ มีองคสมบัติ พอรักษาตนอยู่ตามลำพังได้ พระพุทธองค์ทรงอนุญาตอยู่ตามลำพังได้ เรียกว่า นิสสัยมุตตกะ  ฝ่ายภิกษุผู้มีความรู้ ไม่พอจะรักษาตน แม้พ้น ๕ พรรษาแล้ว ก็ต้องถือนิสัย ดังนั้นท่านจึงถือสมภารวัดปู่เจ้าเป็นอาจารย์ขอนิสัยอยู่ในพรรษานั้น  ซึ่งภายในพรรษาท่านก็ได้ขอศึกษาวิชากับหลวงพ่อสม พระอุปัชฌาย์ ซึ่งท่านก็เมตตาให้คาถามาภาวนาว่า มะ อะ อุ และวิธีการใช้คือ ให้เขียนเป็นอักขระขอมแล้วเสกด้วยคาถานี้

 

                              มะอะอุ ลักขะณังชาตัง

                              มะกาโรพุทธลักขะณัง

                              อะกาโร ธัมมะลักขะณัง

                              อุกาโรสังฆะลักขะณัง

                              อิเจตังระตะนัตตะยัง

 

               เล่าเรียนนักธรรมชั้นตรีและอ่านบุพพสิกขาวรรณนาจนมีความเข้าใจในพระธรรมวินัยมากขึ้น ซึ่งท่านก็สอบนักธรรมชั้นตรีได้ในปีนั้นนั่นเอง เมื่อออกพรรษาและรับกฐินแล้วองค์ท่านมีความประสงค์ที่จะศึกษาวิชาธรรมกายกับหลวงพ่อสดซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อสดกำลังเผยแผ่วิชาธรรมกายท่านมีความสนใจมากจึงไปกราบลาเจ้าอาวาสวัดปู่เจ้า เพื่อเดินทางไปยังวัดปากน้ำภาษีเจริญ ธนบุรี ท่านออกเดินทางไปประมาณเดือนอ้ายหรือเดือนธันวาคมพ.ศ.๒๔๙๔

 

 

 

 

ภาพของหลวงพ่อถ่ายในช่วงอุปสมบทแรกๆสันนิษฐานว่าหลวงพ่อ   อายุโดยประมาณ ๒๐ ปี   พ.ศ. ๒๔๙๔

© 2015 by Piyanuch  Charernmool. Proudly created with Wix.com 

  • facebook
bottom of page